นางกำแพงกลีบบัวตัด แดงสุดๆ รางวัลที่1 / 2 งาน

พระกำแพงกลีบบัว เป็นพระพิมพ์สัญลักษณ์ของพระเครื่องเมืองกำแพงเพชรอีกพิมพ์หนึ่งไม่แพ้พิมพ์ พระนางกำแพง ด้วยเหตุที่เป็นพระที่พบขึ้นจากกรุแทบทุกกรุและมีจำนวนมาก พุทธลักษณะมีความคล้ายกับ พระกำแพงเม็ดมะลื่น แต่ปีกด้านข้างจะเรียวเล็กกว่าคล้ายกลีบบัว จึงนำลักษณะดังกล่าวนี้มาตั้งเป็นชื่อพิมพ์
พุทธลักษณะ เป็นพระปางมารวิชัย สถิตอยู่บนพื้นผนังรูปทรงกลีบบัว (ตัดเป็นลักษณะสามเหลี่ยม คล้ายพระนางกำแพงก็เคยปรากฏ) ประทับนั่งบนฐานหนึ่งชั้น แต่มีบ้างบางองค์เช่นกันที่การกดพิมพ์พระไม่ติดส่วนของเส้นฐาน
เนื้อหามวลสาร ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ ส่วนมาก เนื้อจะละเอียดหนึกนุ่ม หากผ่านการสัมผัสใช้มา ว่านดอกมะขามปรากฏกระจายอยู่ทั่วไปบนองค์พระและรารัก หรือ ราดำ ปรากฏให้พบเห็นมากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่พระที่พบขึ้นจากกรุนั้น ๆ
สำหรับเนื้อว่าน และ เนื้อชิน ปรากฏให้พบเห็นบ้าง แต่ไม่มากนัก
ปรกติเราจะเห็นเนื้อสีแดงอิฐมากกว่า อาจจะมีสีอื่นๆ เนื่องด้วยเผาไม่สุกนัก หรืออ่อนไฟไปหน่อย เผาจนสุก ก็มี อีกทั้งมีรารักให้ศึกษาด้วย โดยรารักเป็นหลักในการพิจารณาพระกำแพง

รารักเป็นองค์ประกอบ : สีของรารักจะดำสนิทและมีลักษณะตรงขอบเป็นหยักๆ ไม่เรียบเสมอ (ของเก๊ มักใช้หมึกหรือใช้ Shell บรินโคด หยดหรือป้ายออก) เหมือนแผลเป็นเวลาตกสเก็ด โดยรารักมี 2 แบบคือ พระที่ยังมีผิวอยู่ รารัก จะไม่นูนสูงเพราะความชื้นจะไม่เกาะติดบริเวณนั้นๆ นาน แบบที่สองคือพระที่ไม่มีผิวเหลืออยู่แล้ว รารัก จะนูนสูงกว่า เพราะความชื้นจะเกาะติดบริเวณนั้นๆ นาน
รารักที่เกิดขึ้นบนองค์พระเป็นพืชซึ่งอยู่ในไฟลัม (Phylum) เดียวกับพวก มอส จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบริเวณนั้นมีความชื้นนานๆ เป็นร้อยปี ขึ้นไปโดยพืชชนิดนี้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ แต่เลี้ยงตัวเองโดยอยู่ในสภาวะพึ่งพากับสาหร่าย ซึ่งสาหร่ายก็อาศัยดินในกรุ หรือคราบกรุ อีกชั้นหนึ่งในการเลี้ยงตัวเอง